กระเจี๊ยบแดง สารอาหารเต็ม

Last updated: 5 ก.ย. 2561  |  3005 จำนวนผู้เข้าชม  | 

กระเจี๊ยบแดง สารอาหารเต็ม

     กระเจี๊ยบแดง มีถิ่นกำเนิดในประเทศซูดาน อินเดีย มาเลเซีย และประเทศไทย โดยในประเทศไทยมีแหล่งผลิตที่สำคัญ ได้แก่ จังหวัดลพบุรี สระบุรี อุตรดิตถ์ กาญจนบุรี และฉะเชิงเทรา ดอกกระเจี๊ยบแดง ดอกเป็นดอกเดี่ยว ออกดอกตามซอกใบ มีกลีบดองสีชมพูหรือสีเหลือง บริเวณกลางดอกจะมีสีเข้มกว่าคือสีม่วงแดง ดอกมีเกสรตัวผู้เชื่อมกันเป็นหลอด ก้านดอกสั้น มีริ้วประดับเรียวยาวปลายแหลม มี 8-12 กลีบกลีบเลี้ยงจะแผ่ขยายติดกันออกหุ้มเมล็ดไว้มีสีแดงเข้มและหักง่าย

     ดอกกระเจี๊ยบแดง เป็นสมุนไพรที่มีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อแบคทีเรียในระบบทางเดินปัสสาวะ และช่วยขับปัสสาวะ ป้องกันการเกิดนิ่วในไต ช่วยฟอกเลือด และบำรุงไตให้แข็งแรง การใช้กระเจี๊ยบแดงควรเลือกเน้นที่ดอกสีแดงสด

     ประโยชน์ ช่วยล้างไขมันในเลือดที่มีมากเกินไป เมื่อไขมันถูกล้างออกไปเรื่อยๆ ผนังหลอดเลือดก็จะยืดหยุ่น บีบตัวและขยายตัวเพื่อให้การไหลเวียนของเลือดสะดวกขึ้น

     ดอกกระเจี๊ยบแดง มีสารสีแดงที่ชื่อ “แอนโธไซยานิน” (Anthocyanidin) มีฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระ ช่วยกำจัดสารพิษ ช่วยให้หลอดเลือดแข็งแรง ต้านภูมิคุ้มกัน และมีฤทธิ์คล้ายฮอร์โมนเอสโตรเจน สามารถลดความดันโลหิต ลดไขมันในเลือด ขับปัสสาวะ ขับยูริก ลดการอักเสบในทางเดินปัสสาวะ อุดมไปด้วยธาตุเหล็กและมีเบต้าแคโรทีนสูงมาก เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นโลหิตจางเนื่องจากขาดธาตุเหล็กและผู้ที่ขาดวิตามินเอ

     สารสำคัญชนิดต่างๆ ที่ให้สรรพคุณเพื่อสุขภาพ
- กรดอินทรีย์หลายชนิดที่พบ ได้แก่ กรดแอสคอร์บิก กรดซิตริก ซึ่งเป็นสารสำคัญทำให้เกิดรสเปรี้ยว มีสรรพคุณช่วยย่อยอาหาร
- กรดอินทรีย์ชนิดกรดแอสคอร์บิกหรือวิตามินซี ช่วยป้องกันเม็ดเลือดแตก ป้องกันโรคเลือดออกตามอวัยวะในร่างกาย ป้องกันเลือดออกตามไรฟัน รักษาโรคโลหิตจาง และเสริมภูมิคุ้มกันของร่างกาย
- กรดแอสคอร์บิกหรือวิตามินซี ช่วยต้านอนุมูลอิสระ บำรุงเซลล์ผิว ลดการเสื่อมของเซลล์ ช่วยลดริ้วรอย และทำให้ผิวพรรณดูอ่อนกว่าวัย
- กรดอินทรีย์ที่พบในดอก มีสรรพคุณต้านเชื้อแบคทีเรีย ใช้ประคบแผล รักษาแผลติดเชื้อ แผลเป็นหนอง ช่วยละลายเสมหะ ลดอาการไอ ต้านเชื้อจุลินทรีย์ในระบบทางเดินอาหาร ป้องกันโรคท้องร่วง และติดเชื้อในระบบทางเดินอาหาร
- ธาตุเหล็กและแมกนีเซียม เป็นองค์ประกอบของสารแอนโธไซยานิน ช่วยดูดซึมวิตามินซี และวิตามินอื่นๆ ในลำไส้ ช่วยป้องกันโรคเลือดจาง เลือดออกตามอวัยวะ และกระตุ้นการเจริญพันธุ์
- สารแอนโธไซยานิน เป็นสารที่ให้สีแดงหรือสีม่วงในกลีบเลี้ยงกระเจี๊ยบแดง มีฤทธิ์เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยบำรุงเซลล์ ไม่ให้เซลล์เสื่อมเร็ว บำรุงผิวพรรณ ป้องกันอันตรายจากสารพิษที่มีแก่เซลล์ เช่น เซลล์ตับ เป็นต้น
- สารแอนโธไซยานินมีองค์ประกอบของโมเลกุลน้ำตาล เป็นสารที่ให้พลังงาน ช่วยบำรุงร่างกาย ลดอาการอ่อนเพลีย และปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ
- สารในกลุ่มพอลิแซคคาไรด์ (polysaccharide) ที่มีอยู่หลายชนิดออกฤทธิ์ร่วมกันลดระดับน้ำตาลในเลือด ลดไขมันในเส้นเลือด ช่วยป้องกัน-รักษาโรคความดันโลหิต โรคไขมันในเส้นเลือด และโรคอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับหลอดเลือด

     ดอกกระเจี๊ยบหรือกลีบดอก ช่วยบรรเทาอาการปวดหัวและลดไข้ แก้ไอ แก้เสมหะ ขับน้ำดี ขับปัสสาวะ ขับนิ่วในกระเพาะปัสสาวะและในไตและแก้พยาธิตัวจี๊ด และขับเมือกมันออกจากลำไส้ลงสู่ทวารหนัก ลดไขมันคอเลสเตอรอลและช่วยแก้อาการกระหายน้ำได้เป็นอย่างดี

     จากการวิจัยพบว่าผงดอกกระเจี๊ยบแดงสามารถลดระดับไตรกลีเซอไรด์ในเลือดได้ และลดระดับความดันโลหิตช่วงหัวใจบีบตัวได้

     ในกระเจี๊ยบแดง 100 กรัม เต็มไปด้วยสารอาหารหลายชนิด ซึ่งประกอบไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการดังนี้

พลังงาน 460.00 แคลอรี, ไขมัน 0.30 กรัม, คาร์โบไฮเดรต 9.40 กรัม, โปรตีน 1.40 กรัม, เส้นใย 1.30 กรัม, แคลเซี่ยม 151.00 มิลลิกรัม, ฟอสฟอรัส 59.00 มิลลิกรัม, เหล็ก (Iron) 1.00 มิลลิกรัม, วิตามิน บี 10.01 มิลลิกรัม, วิตามิน บี2 0.24 มิลลิกรัม, ไนอะซีน 1.80 มิลลิกรัม, วิตามิน ซี 44 มิลลิกรัม, วิตามิน เอ 10,833.00 IU, แอนโธไซยานิน 2.52 กรัม, น้ำตาล (Sugars), น้ำตาลกลูโคส 1.29 กรัม, น้ำตาลฟรุกโตส 1.12 กรัม, น้ำตาลซูโคส 0.87 กรัม,กรดอินทรีย์ , กรดซัคซินิก 0.51 กรัม, กรดออกซาลิก 0.43 กรัม, กรดทาร์ทาริก) 0.17 กรัม, กรดมาลิก 0.12 กรัม, กรดแอสคอร์บิก  141.09 มิลลิกรัม, แคโรทีน 1.88 มิลลิกรัม, ไลโคเพน 164.34 มิลลิกรัม

     สามารถใช้เป็นส่วนผสมของเครื่องสำอาง
     ด้วยคุณสมบัติที่ดีต่อผิว และสีของกระเจี๊ยบแดงที่ติดทนนาน จึงนิยมนำมาใช้เป็นส่วนผสมของเครื่องสำอางด้วย นอกจากนี้ก็มีการนำมาทำเป็นเจลอาบน้ำ ครีมขัดผิว และครีมบำรุงผิวจากกระเจี๊ยบแดงด้วยเช่นกัน

     ซึ่งโดยส่วนใหญ่หมอแผนไทยก็จะใช้เพื่อขับปัสสาวะ ขับนิ่ว แก้ไอ ขับเสมหะ ขับน้ำดี เป็นเครื่องดื่มที่มีสรรพคุณแก้ร้อนในกระหายน้ำ ดื่มได้ทุกเพศทุกวัย แต่ในกรณีที่ใช้เป็นยาอาจจะต้องใช้ปริมาณมากเพื่อให้มีฤทธิ์เข้มข้นเป็นยา หรืออาจนำไปเข้ากับตัวยาอื่น ๆ

คัดเลือกคุณค่าจากธรรมชาติ เพื่อคงคุณค่าของธรรมชาติ
โดยผู้เชี่ยวชาญด้านการเกษตรพืชสมุนไพรโดยตรง
บริษัท เนเจอร์ อโกร โปรดักซ์ จำกัด

ขอขอบคุณข้อมูลจาก :
https://www.honestdocs.co/benefits-of-roselle-and-caution
https://health.kapook.com/view78814.html