ข่า กินดีรักษาได้

     ข่า เป็นพืชที่มีลำต้นอยู่ใต้ดิน (เหง้า) และยังประกอบไปด้วย ใบ ดอก ผล และเมล็ด โดยจัดอยู่ในตระกูลขิง เป็นพืชสมุนไพรที่อยู่คู่ครัวคนไทย นิยมนำมาใช้ในการประกอบอาหารต่าง ๆ ใช้เป็นเครื่องเทศเพื่อช่วยแต่งกลิ่นอาหาร สามารถใช้ดับกลิ่นคาวของเนื้อสัตว์ หรืออาหารทะเลได้เป็นอย่างดี
     และยังใช้ เป็นส่วนผสมในเครื่องแกงหรือน้ำพริกต่าง ๆ ใช้ปรุงรสในอาหารต่าง ๆ รวมถึงใช้เป็นตำรับยาแผนโบราณในการรักษาโรคภัยไข้เจ็บอย่างยาวนาน
     สำหรับการใช้ ประโยชน์ข่า ด้านการรักษาโรค และใช้ทำสมุนไพร นั้น นิยมใช้ หน่อ เหง้า ราก ดอก ผล และใบ เรียกได้ว่าทุกส่วนของข่าสามารถใช้ประโยชน์ได้ทั้งหมด

สรรพคุณทางสมุนไพรของข่า
     สำหรับการนำข่ามาใช้ในการรักษาโรคนั้นเป็นเพราะข่าเป็นสมุนไพรที่มีรสเผ็ดปร่าและมีน้ำมันหอมระเหยมีกลิ่นที่หอมเราจึงมักใช้ข่ามาเป็นยารักษาอาการป่วยในทุกระบบของร่างกาย
     ข่ามีสาร สารประกอบฟีนอล ACA เป็นสารให้รสเผ็ดร้อนที่พบในเหง้าข่า มีคุณสมบัติยับยั้งการเกิดโรคมะเร็งจากการเหนี่ยวนำของสารก่อมะเร็ง จึงช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็งไปด้วยในตัวยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง ช่วยบำรุงร่างกาย สารสกัดจากเหง้ามีฤทธิ์ช่วยช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด  ช่วยให้ระบบหลอดเลือดทำงานได้ดี
     น้ำมันหอมระเหยจากข่ามีประโยชน์อย่างมากต่อระบบทางเดินหายใจ จึงมีส่วนช่วยแก้อาการหวัด ไอ และเจ็บคอได้เป็นอย่างดี ช่วยขยายหลอดลม
     มีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อนๆช่วยยับยั้งแผลในกระเพาะอาหารช่วยทำลายสารพิษที่ตกค้างในลำไส้ช่วยลดการบีบตัวของลำไส้และช่วยขับน้ำดี
     นอกจากนั้นสารสกัดจากเหง้ามีฤทธิ์ช่วยต้านอาการแพ้ต่าง ๆช่วยลดอาการอักเสบ ใช้รักษาโรคผิวหนังต่าง ๆ ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียและเชื้อรา
     ช่วยแก้ฟกช้ำ ข้อเท้าแพลง เคล็ดขัดยอก ช่วยแก้ตะคริว ช่วยแก้เหน็บชา แก้อาการปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อ อาการปวดบวมตามข้อ ช่วยบำรุงสมรรถภาพทางเพศ
     ปัจจุบันมีการวิจัยพบว่าข่ามีสรรพคุณ มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ต้านมะเร็ง และต้านเนื้องอก

     ข่าสามารถนำไปผลิตหรือแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ได้ทั้งเครื่องดื่มหรือชาทำลูกประคบสเปรย์ดับกลิ่นแชมพูครีมนวดและเป็นส่วนผสมของผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง

วัตถุดิบสมุนไพรธรรมชาติ และ สารสกัดจากธรรมชาติแท้ คงคุณค่า

ขอขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก:

https://medthai.com/ข่า/